ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณอ้อ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สมัยนี้คนไทยหันมาทำอาหารกินเองกันมากขึ้น มีพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่ที่กำลังเพิ่งเริ่มหัดทำอาหารเกิดขึ้นมากมาย เห็นได้ชัดจากกระแสการแชร์ภาพเมนูอาหาร และสูตรอาหารต่าง ๆ คาว-หวาน ทั้งแบบที่ทำง่ายมาก ๆ ไปจนยากสุด ๆ ก็มี แต่เห็นทีว่า เมนูอาหารง่าย ๆ จะมีคนแห่กันกดไลค์ กดแชร์กันจนแทบระเบิด วันนี้ กระปุกดอทคอม ก็เลยนำ 23 สูตรอาหารสุดง่าย อร่อยได้แบบไม่น่าเชื่อ มาฝากพ่อครัวแม่ครัวมือใหม่กัน ที่หน้าตาอาหารดูดี๊ดูดี ชวนหิว ชวนน้ำลายไหล เด็ดตรงที่มีวิธีทำง่าย ๆ แถมยังเป็นเมนูฟิวชั่นที่ดัดแปลงตามสไตล์ของ คุณอ้อ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และในบางเมนูทำง่ายจนเรานึกไม่ถึงอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าครัวไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. กุ้งมะนาวเปรี้ยวแซบ
ส่วนผสม
กุ้งขาวแกะเปลือกผ่าหลังรากผักชีสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะกระเทียมสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะพริกขี้หนูสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะน้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะน้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย 1 ช้อนชาก้านคะน้า และแครอท แช่น้ำเย็นจัดวิธีทำ
1. ลวกกุ้ง โดยตั้งน้ำให้เดือดจัด ใส่กุ้งลงไปลวก พอกุ้งเริ่มเปลี่ยนสี หรือประมาณ 5-10 วินาที ให้รีบตักขึ้นทันที จะสุกพอดีและกุ้งไม่หด (ในน้ำลวกกุ้งใส่ใบโหระพาไปนิดจะหอมมากค่ะ ^^) 2. ทำน้ำจิ้ม โดยนำน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนผสมให้น้ำตาลละลาย จากนั้นชิมรส ถ้าจัดเกินไปจะเติมน้ำซุปจากการลวกกุ้งนิดหน่อยก็ได้ค่ะเมื่อได้รสที่ชอบแล้ว ใส่กระเทียมรากผักชี และพริกขี้หนูสับตามลงไป เสิร์ฟคู่กับก้านคะน้า และแครรอทแช่เย็น
2. ทอดมันปลากราย 
ส่วนผสม ทอดมัน
เนื้อปลากราย 500 กรัม น้ำพริกแกงเผ็ด 1/2 ถ้วยไข่ไก่ 1 ฟองถั่วฝักยาวซอย 1 ถ้วยพูนๆใบมะกรูดซอยละเอียด 3 ช้อนโต๊ะน้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ นำทุกอย่างผสมเข้าด้วยกัน แล้วนวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำไปทอดให้สุก กินคู่กับน้ำจิ้มอาจาด
ส่วนผสม น้ำจิ้มอาจาด
แครอท 1/2 ถ้วยแตงกวา 1/2 ถ้วยหอมแดงซอย 1/2 ถ้วยมะนาว 2 ลูก (อ้อใช้มะนาวแทนน้ำส้มสายชู ไม่ชอบรสเปรี้ยวของน้ำส้มจ๊ะ)พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทรายน้ำเปล่าเกลือป่นหมายเหตุ : อัตราส่วนน้ำตาลทราย น้ำเปล่า และเกลือนิดหน่อยที่ใช้ทำเป็นน้ำเชื่อม ปรุงตามเพื่อน ๆ ชอบเลยนะคะ กะปริมาณให้พอท่วมผักที่เราเตรียมไว้เป็นพอค่ะ
วิธีทำ 1. นำแตงกวา แครอท หอมแดง และพริกขี้หนู ใส่ในชาม บีบมะนาวลงไป คลุกเคล้าเบา ๆ ให้ทั่ว แช่เย็นพักไว้ 2. ผสมน้ำกับน้ำตาลทราย และเกลือป่น คนให้ละลาย นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียว ชิมรสให้ออกหวานเค็มนิด ๆ ตามชอบ พักให้เย็น 3. เวลาเสิร์ฟราดส่วนผสมนำลงในชามผัก จะได้ผักที่กรอบอร่อยสามรสจ้า
3. ทอดมันข้าวโพดกุ้งสับ
ส่วนผสม
ข้าวโพดหวานต้มหั่นเป็นเม็ด 1 ถ้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วยไข่ไก่ 1 ฟองกุ้งสับ 1/2 ถ้วยพริกไทย 1 ช้อนชากระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะรากผักชีสับ 3 ช้อนโต๊ะน้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะน้ำมันสำหรับทอดหมายเหตุ : จะได้ส่วนผสมที่เหลวนิดหน่อย เวลาทอดจะฟูกรอบดีค่ะ หากใครชอบเหนียว ๆ ให้ใส่แป้งเพิ่มได้ค่ะ
วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดนวดคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปทอดในน้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลางจนสุกเหลืองน่ารับประทาน เสิร์ฟคู่กับซอสมะเขือเทศหรือน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย
4. เต้าหู้ทรงเครื่องส่วนผสม
เต้าหู้คินุ 1 ก้อนหมูสับ 50 กรัมหอมใหญ่หั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะเห็ดหอม 2 ดอก (แช่น้ำให้นิ่ม หั่นเป็นเส้น)แครอทหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยแป้งข้าวโพด 3 ช้อนชา (ผสมน้ำเล็กน้อย คนผสมให้ละลาย)น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะซีอิ๊วขาว (ใส่ตามชอบจ๊ะ)พริกไทยป่น 1 ช้อนชาน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะวิธีทำ 1. นึ่งเต้าหู้ หรือลวกน้ำร้อน พักไว้ 2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่หอมใหญ่ลงไปเจียวให้หอม ใส่หมูสับลงไปผัด ตามด้วยเห็ดหอม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และพริกไทยป่น ใส่น้ำพอขลุกขลิก พอเดือด 3. ใส่แครอท และแป้งข้าวโพดผสมน้ำลงไปให้น้ำข้นนิด ๆ พอเดือดอีกครั้งปิดไฟ นำไปราดบนเต้าหู้ โรยด้วยต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟหมายเหตุ : อ้อใส่แครอททีหลัง เพราะชอบแบบกรอบ ๆ ไม่ต้องสุกมาก หากเพื่อน ๆ ชอบแครอทนิ่มๆ ให้ใส่พร้อมเห็ดหอม
5. ไก่ทอดเกลือตะไคร้กรอบส่วนผสม 
ปีกบนไก่ 300 กรัม แป้งสาลี 1/2 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนชา น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอยละเอียดยิบ 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับหมักไก่) น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย ตะไคร้ซอย สำหรับทอดกรอบ ใบมะกรูดซอยสำหรับทอดกรอบวิธีทำ 1. นำปีกไก่ แป้งสาลี เกลือ น้ำมันหอย น้ำเปล่า และตะไคร้สับละเอียด คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที 2. นำตะไคร้และใบมะกรูดทอดในน้ำมันให้กรอบ ตักขึ้นพักไว้ เพื่อเป็นเครื่องเคียงไก่ทอด 3. นำไก่ไปทอดในน้ำมันร้อนจัด จนไก่สุกเหลือกรอบ เสิร์ฟพร้อมตะไคร้และใบมะกรูดทอดกรอบ หรือกินคู่กับซอสพริกหมายเหตุ : เมนูนี้จะได้ไก่กรอบนอกนุ่มใน หอมตะไคร้เบา ๆ กินคู่กับตระไคร้และใบมะกรูดทอดกรอบ เป็นเมนูอร่อยที่ทำง่ายใคร ๆก็ทำได้.... จะกินเป็นกับแกล้มหรือข้าวสวยร้อน ๆ ก็เข้ากันอย่างที่สุดค่ะ
6. หมูกอร์ดองเบลอ (Pork Cordon Bleu)
ส่วนผสม
หมูสันนอก หั่นเป็นชิ้น น้ำหนักชิ้นละ100-120 กรัม จำนวน 2 ชิ้นเกลือป่น และพริกไทยป่นไข่ไก่ 1 ฟอง (ตีจนเข้ากัน)แป้งสาลีอเนกประสงค์เกล็ดขนมปังแฮม 1 แผ่นเชดด้าชีสน้ำมันสำหรับทอดไม้จิ้มฟันวิธีทำ 1. นำหมูสันนอกหั่นตามขวางแบบสเต็ก หนา 1.5-2 ซม. (จะใช้ค้อนทุบสเต็กทุบเพิ่มความนุ่ม และขนาดของชิ้นให้ใหญ่ ๆ ขึ้นก็ได้นะคะ แต่ถ้าไม่ทุบก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะหมูสันนอกไม่แข็งอยู่แล้ว) 2. นำสันนอกสเต็กที่หั่นแล้ว ใช้มีดคม ๆ แล่แผ่ออกเป็นปีกผีเสื้อ สำหรับใส่ชีสและแฮม จากนั้นนำชีสและแฮมหั่นตามขนาดของชิ้นหมู วางใส่ลงไปตรงกลางบริเวณที่เราแล่ออก และปิดทับ โดยใช้ไม้จิ้มฟันกลัดหัวท้ายและตรงกลางเพื่อไม่ให้ชีสเยิ้มออกมาขณะทอด 3. โรยเกลือป่น และพริกไทยป่น เล็กน้อยทั้งสองด้าน 4. นำไปคลุกแป้งสาลีให้ทั่วบาง ๆ รอบชิ้นหมู แล้วนำไปชุบไข่ ตามด้วยชุบเกล็ดขนมปังทั้งสองด้าน 5. ทอดในน้ำมันร้อนไฟปานกลาง จนสุกเหลืองน่ารับประทาน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันในแนวตั้ง (ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที ให้ชีสเซตตัว เวลาหั่นชีสจะได้ไม่เยิ้มออกมาเลอะไม่สวย แต่ถ้าใครชอบชีสที่กำลังละลายเยิ้ม ๆ ก็หั่นเสิร์ฟได้เลยค่ะ)หมายเหตุ : กินคู่กับ ซอสบาร์บีคิว มัสตาร์ด หรือซอสมะเขือเทศ ก็ได้ตามชอบเลยจ้า ^^ แนมด้วยผักสลัดเพื่อเพิ่มคุณค่าวิตามินให้กับเมนูนี้สักนิด อร่อยครบเลยค่ะ
7. เห็ดฟางผัดใบโหระพาส่วนผสม
กระเทียมสับ พริกขี้หนูทุบ เนื้อไก่หั่นชิ้น (จริง ๆ ไม่ใส่เนื้อสัตว์ก็อร่อยค่ะ) เห็ดฟาง น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ใบโหระพาวิธีทำ ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำกระเทียม และพริกขี้หนูลงไปผัดให้หอม ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดพอสุก ใส่เห็ดลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ใส่น้ำเปล่านิดหน่อย พอสุกใส่ใบโหระพา ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
8. ปลาต้มกระชายส่วนผสม
ปลานิล ปลาทับทิม ปลาช่อน หรือเนื้อไก่ เลือกตามชอบ (แต่วันนี้อ้อใช้ปลานิลค่ะ นำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ) กระชายทุบ (ครั้งแรกควรใส่น้อย ๆ บางท่านอาจไม่คุ้นเคยค่ะ) เกลือป่น น้ำปลา ผงปรุงรสนิดหน่อย (เพื่อร่นระยะเวลาค่ะ)วิธีทำ 1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ น้ำปลา และผงปรุงรส ชิมรสตามชอบ (ไม่ต้องเค็มมาก) 2. พอน้ำเดือด ใส่กระชายทุบลงไป พอเดือดอีกครั้งใส่เนื้อปลาลงไปเบา ๆ ทีละชิ้น (ในขั้นตอนนี้ห้ามคนเด็ดขาดจนกว่าปลาจะสุก)เทคนิคไม่ให้ปลาในอาหารประเภทต้มมีกลิ่นคาว คือ
1. ต้มน้ำให้เดือดก่อนจึงใส่ปลา และห้ามคนจนกว่าจะสุก 2. ในขั้นตอนสุดท้ายบีบมะนาวลงไปนิดหน่อยเพื่อให้เนื้อปลาแข็งตัว จะช่วยลดกลิ่นคาวด้วยค่ะหมายเหตุ : ได้มีโอกาสไปประเทศจีน ได้ไปกินน้ำซุปของจีน ปรากฏว่าเหมือนที่เราทำเลย หากเพื่อน ๆ ที่เคยไปสั่งอาหารชุดของเขาส่วนมากจะมี ซุปถ้วยสูง ๆ มาให้ซดด้วย แต่เค้าจะใช้เนื้อไก่ คือ สูตรนี้เลย ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ฮ่า ๆ ลองทำกินกันดูนะ
9. ลาบหมู
ส่วนผสม
หมูสับ 100 กรัม (ผสมน้ำเปล่า 7 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนชา แล้วนำไปรวนพอสุก ตักใส่ชาม พักไว้) ตับหมูต้ม 50 กรัม (ต้มพอสุกนุ่ม ไม่แข็งแห้ง) หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งซอย 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา พริกป่น ตามชอบ ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (แบ่งไว้โรยหน้าตอนเสิร์ฟเล็กน้อย) ใบสะระแหน่ เด็ดเป็นใบ สำหรับตกแต่ง ผักกาดขาว 1 ก้าน มะเขือเทศราชินีสำหรับเสิร์ฟ ผักสดสำหรับเสิร์ฟ (จะเป็นอะไรก็ได้ตามชอบนะคะ)วิธีทำ นำหมูรวนและตับใส่ในชามผสม ปรุงรสด้วยนำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น และข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วย หอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง และใบมะกรูดซอย คลุกเคล้าเบา ๆ อีกครั้ง ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยใบมะกรูดซอยและใบสะระแหน่หมายเหตุ : เมนูลาบ วันนี้อ้อใส่ตับหมู และใบมะกรูดซอยลงไปด้วย เพิ่มความมันละมุนลิ้น ความหอมของใบมะกรูดจะทำให้ลาบดูมีเสน่ห์เพิ่มอรรถรสมากยิ่งขึ้นค่ะ เพื่อน ๆ ลองทำกันดูนะคะ รับรองจะติดใจค่ะ
10. ลาบดอกขจรส่วนผสม
ดอกขจรลวกสุก
หมูสับรวนสุก ปลาหมึกลวกสุก ข้าวคั่ว น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำปลา พริกแห้งคั่วป่นหยาบ หอมแดงซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย ใบสะระแหน่วิธีทำ ผสมน้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำปลา และพริกป่น คนผสมให้น้ำตาลละลาย ใส่หมูสับรวน ดอกขจรลวกสุก และปลาหมึกลวก ใส่ข้าวคั่วเป็นลำดับสุดท้าย และตามด้วยหอมแดงซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย และใบสะระแหน่ คลุกเคล้าเบา ๆ ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ
11. ปีกไก่อบต้มยำพริกเผา (ทำง่ายอย่างกับปอกกล้วย)ส่วนผสม
ปีกกลางไก่ 500 กรัม ซอสมะเขือเทศ 2 ถ้วย (อ้อใช้ของโรซ่า) น้ำพริกเผาต้มยำ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันที่อยู่ในพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ (อ้อใช้ยี่ห้อ aro ของแมคโคร รสชาติจะคล้าย ๆ พริกเผาต้มยำของมาม่า)หมายเหตุ : ใครชอบหวานใส่น้ำตาลทรายเพิ่มได้ค่ะ
วิธีทำ 1. ผสมไก่กับซอสมะเขือเทศ น้ำพริกเผาต้มยำ และน้ำมันน้ำพริกเผา เข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นข้ามคืน (หรือ 2 ชั่วโมงก็ได้ค่ะ ถ้าต้องการความอร่อยด่วน ๆ แต่อ้อทิ้งไว้ข้ามคืน เข้มข้นเข้าเนื้อมาก อิอิ) 2. นำไปอบด้วยความร้อน 200 องศาเซลเซียส ด้านละ 7 นาที หรือจนสุกเหลืองน่ารับประทาน สามารถใช้ไมโครเวฟ หรือย่างในกระทะเทฟลอนได้ค่ะหมายเหตุ : รสชาติจะออกเปรี้ยว เค็ม และหวาน รสจัดจ้านนิดหนึ่ง กินคู่กับมะเขือเทศราชินีเข้ากันที่สุดในโลกค่ะ จะบีบมะนาวนิดเพิ่มความจี๊ดจ๊าดก็ไม่วากัน ผักแนมข้าง ๆ พูดเลยกินร่วมกันได้ดีมากค่ะ ยกเว้นตระไคร้นะ ฮ่า ๆ
12. พิซซ่าไก่
ส่วนผสม
อกไก่หั่นเป็นชิ้น 100 กรัมหอมใหญ่หั่นเต๋า 1/2 หัวเนยดสดซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วยเกลือป่นพริกไทยป่นใบออริกาโน่แผ่นแป้งสาลีตอติล่า แบบโฮลวีต (เราใช้ยี่ห้อ Danitas)พริกหวาน 3 สี หั่นเป็นเส้น ๆมะเขือเทศราชินีหั่นครึ่งมอสซาเรลลาชีสขูดฝอยวิธีทำ 1. นำหอมใหม่ผัดกับเนย พอสุกใส่ซอสมะเขือเทศ ใส่เกลือป่น พริกไทยป่น และออริกาโน่นอดหน่อย ชิมรสให้เปรี้ยวหวานตามชอบ ใส่ไก่ลงไปผัดพอสุกประมาณ 80% (เพราะเมื่อนำไปอบจะเสียน้ำจะทำให้เนื้อสัตว์แห้งเกินไป) 2. นำเครื่องที่ผัดตักราดบนแผ่นแป้ง วางพริกหวาน และมะเขือเทศ โรยด้วยมอสซาเรลลาชีสปริมาณตามชอบ 3. นำเข้าอบอุณภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 6 นาที (หรือจนชีสเป็นสีเหลืองทอง) นำออกจากเตา โรยด้วยออริกาโน่ ตัดแบ่งพร้อมเสิร์ฟหมายเหตุ : อ้อไม่ได้นำพริกหวานและมะเขือเทศลงผัดพร้อมไก่ เพราะอ้อชอบแบบนี้นะจ๊ะ รู้สึกว่าได้กลิ่นหอม ๆ ของพริกชัดเจน ได้ความหวานเปรี้ยวนิด ๆ ของมะเขือเทศ หากเพื่อน ๆ ชอบสุกแบบเข้าเนื้อ สามารถนำไปผัดกับซอสในตอนแรกได้นะจ๊ะ
13. ฟักทองผัดไข่ใบโหระพา
ส่วนผสม
ฟักทองดิบ หั่นเป็นชิ้น ประมาณ 200 กรัมหมูสับ 30 กรัมไข่ไก่ 1 ฟองกระเทียม 2-3 กลีบโหระพา เด็ดเป็นใบน้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะน้ำเปล่าหรือน้ำสต็อก 1/2 ถ้วยซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะน้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะพูนๆหมายเหตุ : อ้อไม่ใส่น้ำตาล เพราะฟักทองหวานอยู่ในตัวแล้วค่ะ หากใครชอบหวานสามารถใส่น้ำตาลได้ค่ะ
วิธีทำ 1. นำกระเทียมสับเจียวในกระทะให้หอม ใส่หมูสับลงไปผัด พอหมูสับใกล้สุก นำฟักทองใส่ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอยลงไปผัดให้เข้ากัน 2. เติมน้ำลงไปคลุกเคล้าเบา ๆ สังเกตุพอฟักทองสุก 90% ให้ตอกไข่ใส่ลงไป ผัดไข่เบา ๆ ให้ทั่ว พอไข่และฟังทองสุก น้ำจะงวดพอดี ใส่ใบโหระพาลงไป พร้อมเสิร์ฟ
14. ซุปหน่อไม้ (ฟิวชั่นจ๋า)จะเป็นอย่างไรเมื่อซุปหน่อไม่ได้มีแค่หน่อไม่อีกต่อไป... มาดูกันค่า ^^
ส่วนผสม
หน่อไม้เผาฉีกเป็นเส้น ต้มน้ำใบหญ้านาง 100 กรัมหมูสับรวน 3 ช้อนโต๊ะ (รวนแบบมีน้ำขลุกขลิก)ปลาหมึกลวกสุก 1/2 ถ้วยหอยแมลงภู่ลวกสุก 1/2 ถ้วยน้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะพริกขี้หนูป่น ตามชอบข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะน้ำปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ใส่น้ำปลาร้าให้เพิ่มน้ำปลาแทน)หอมแดงซอยต้มหอมซอยผักชีฝรั่งซอยสะระแหน่เด็ดเป็นใบวิธีทำ นำหน่อไม้ (ที่ต้มกับน้ำใบย่านางแล้ว) ใส่ในชามผสม ตามด้วยหมูสับ ปลาหมึกและหอยแมลงภู่ ใส่พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว ข้าวคั่วป่น และน้ำปลาร้า คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ปรุงจนได้รถชาติถูกใจ ออกเปรี้ยว เค็ม และหวานจากน้ำใบหญ้านาง จากนั้นใส่หอมแดงซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอย เคล้าเบา ๆ โรยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
15. สเต็กหมูส่วนผสมสำหรับสเต็ก
เนื้อสันนอกหมู หั่นชิ้นหนาประมาณ 1.5-2 ซ.ม. จำนวน 3 ชิ้นใบออริกาโน่แห้ง 1 ช้อนโต๊ะเกลือป่น 1/2 ช้อนชาซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะพริกไทยดำป่น 1 ช้อนชาแป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยผงฟู 1/2 ช้อนชา (อัตราส่วนที่เหมาะสม คือ เนื้อหมู 1 กิโลกรัม ต่อผงฟู 1 ช้อนชา)หมายเหตุ : ที่อ้อเลือกใช้ผงฟู เพราะจะทำให้ได้สเต็กที่เนื้อนุ่ม เด้งเบา ๆ นิดเดียวเท่านั้นค่ะ ซึ่งยังคงได้คุณลักษณะเนื้อสัมผัสที่ดีของความเป็นสเต็กอยู่ หากเพื่อน ๆ ไม่ชอบอาจเลือกใช้สับปะรดในการหมักหมูแทนก็ได้ค่ะ แต่สับปะรดจะเหมาะสำหรับหมักแล้วเลยภายใน 1 วัน เพราะคุณสมบัติของสับปะรดคือทำให้เนื้อสัตว์เปื่อยนุ่ม แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถหยุดกระบวนการย่อยได้ หากหมักนานเกินไป เนื้อสัตว์อาจเละเกินไป
วิธีทำ 1. นำเนื้อหมูลงในชามผสม ตามด้วยออริกาโน่ พริกไทยดำ เกลือป่น ซอสถั่วเหลือง และแป้งสาลีอเนกประสงค์ คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำลงไป ตามด้วยผงฟู เคล้าให้เข้ากัน หากต้องการหมักข้ามคืนหรือทำเก็บแช่แข็ง ให้นวดนานประมาณ 5-10 นาที แต่หากต้องการกินแบบเร่งด่วนให้นวดประมาณ 20-30 นาที 2. ใส่น้ำมันพืชลงเป็นลำดับสุดท้ายเพื่อให้เป็นการเคลือบเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้ติดกับชิ้นเนื้อสเต็กวิธีเก็บสเต็ก : วิธีเก็บสเต็กแบบแช่แข็งกินได้นาน ๆ คือ นำเนื้อสเต็กบรรจุลงในถุง 1 ชิ้นต่อ 1 ถุง นำไปแช่แข็ง เมื่อต้องการกินก็นำออกมา ตามจำนวนชิ้นที่ต้องการ สามารถเก็บได้หลายเดือนค่ะ
วิธีย่างสเต็ก : ใส่เนยลงในกระทะเทฟลอน ใส่เนื้อลงย่าง ด้านละ 5-7 นาที หรือจนสเต็กเหลืองสวย
ส่วนผสมน้ำเกรวี่
เนยสดหอมใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนชาพริกไทยดำ 1 ช้อนชาแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะน้ำ 1/4 ถ้วยวิธีทำ ใส่เนยลงในกระทะ ใส่เกลือเล็กน้อยหน่อย ตามด้วย หอมใหญ่สับ พริกไทยดำ แป้งสาลีอเนกประสงค์ และน้ำ ต้มจนเดือดวิธีทำมันฝรั่งบดอบชีส ความลับคือ อ้อไม่ได้ขยันอย่างที่คิดค่ะ อ้อใช้แบบสำเร็จรูป นำมาผสมกับน้ำเดือดก็เป็นมันฝรั่งบดหอม ๆ อร่อยมาก ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ใส่เนยเพิ่มไปนิดนึงเพิ่มความหอม โรยด้วยมอสซาเรลล่าชีส และนำไปอบประมาณ 3-5 นาที
16. หอยทอดแบบง่ายนึกจะกินหอยทอดแต่ละครั้งต้องไปร้านใช่ไหมคะ ส่วนผสมมีแป้งหลายอย่างวุ่นวายเหลือเกิน แค่คิดจะทำก็เหนื่อยซะแล้ว วันนี้อ้อมีสูตรการทำหอยทอดแบบไม่ยุ่งยาก และอร่อยกรอบไม่แพ้ที่ร้านทำเลย ง่ายแค่ไหนมาดูกัน
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)
แป้งครัวครบรส (สูตรต้นตำรับ) 4 ช้อนโต๊ะ น้ำเย็นจัด 1 ถ้วย หอยแมลงภู่ชิลี 100 กรัม ต้นหอมซอย ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำมันสำหรับทอด ซอสพริก ถั่วงอกหรือผักอื่น ๆ ที่มีในบ้าน (วันนี้อ้อใช้ถั่วลันเตากับแครอทค่ะ)วิธีทำ 1. ละลายแป้งครัวครบรสในน้ำเย็นจัด คนผสมจนแป้งละลายและไม่เป็นเม็ด ใส่หอยแมลงภู่ และหอมซอยลงไป คนผสมให้เข้ากัน พักไว้ 2. ใส่น้ำมัน (เยอะพอควร) ลงในกระทะเทฟลอนชนิดแบน พอน้ำมันร้อนได้ที่ (ทดสอบโดยนำแป้งหยดลงไป ถ้าฟูขึ้นมาแสดงว่าใช้ได้) เทส่วนผสมแป้งกับหอยแมลงภู่ลงกระทะ เกลี่ยให้แผ่ออกเป็นแผ่นกลม จากนั้นตอกไข่ใส่ลงไป เกลี่ยให้ทั่ว (เนื่องจากอ้อชอบกรอบ ๆ เลยทอดนานนิดนึง) สังเกตุโดยเอาตะหลิวตักดูด้านล่างว่า เหลืองกรอบพอหรือยัง จึงกลับด้าน พอไข่เริ่มสุก และแป้งกรอบ ก็ตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ โรยด้วยหอมซอย และพริกไทยป่น กินคู่กับซอสพริก อร่อยเหาะเลยค่ะ เนื่องจากวันนี้อ้อไม่มีถั่วงอก แต่ร่างกายต้องการผัก จึงใช้แครอทและถั่วลันเตาลวกสุกมากินคู่กันค่ะหมายเหตุ : หมายเหตุอ้อไม่ได้ปรุงรสเลยนะคะ เพราะแป้งมีรสชาติพอดีอยู่แล้วค่ะ
17. ทะเลอบวุ้นเส้นปกติจะใส่แต่กุ้ง แต่สูตรนี้อ้อขอแอบใส่ปลาหมึกกับหอยแมลงภู่ด้วยนะคะ เป็นแกงค์ทะเล มาดูวิธีทำกันค่ะ
ส่วนผสมน้ำปรุงรส
นมข้นจืด 1 ถ้วย
พริกไทยดำป่น หรือซุนเจียวบุบ 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และซอสถั่วเหลือง อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนชา เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะหมายเหตุ : ส่วนผสมน้ำปรุงรส ให้เพื่อน ๆ ปรุงแล้วชิมรสตามชอบนะคะ แต่ละบ้านจะใช้เครื่องปรุงคนละยี่ห้อ รสชาติก็จะแตกต่างกันไป ปรุงแล้วชิมให้มีรสเค็ม ๆ มัน ๆ ก็ใช้ได้ค่ะ
ส่วนผสมสำหรับทำทะเลอบวุ้นเส้น
มันหมูแข็ง (หรือใช้เบคอนแทนได้ค่ะ) ขิงแก่ทุบหยาบ ๆ 3-4 ชิ้น กระเทียมทุบหยาบ ๆ 10 กลีบ รากผักชีทุบหยาบ ๆ พริกไทยดำป่น หรือซุนเจียวทุบพอแตก วุ้นเส้นแห้ง (ถุงเล็กขนาด 80 กรัม) แช่น้ำให้นิ่ม ตัดเป็ดนท่อนสั้นประมาณ 4 นิ้ว (คลุกซีอิ๊วดำหวานนิดหน่อย พอให้สีสวย) กุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ ใส่ตามชอบจ้า ผักชีไทยหมายเหตุ : อัตราส่วนตามชอบเลยจ้า
วิธีทำ 1. นำส่วนผสมรองก้นหม้อ โดยวางมันหมูเป็นลำดับแรก ตามด้วยขิง กระเทียม รากผักชี พริกไทยดำ กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ และวุ้นเส้น 2. เทน้ำปรุงรสใส่ตามลงไป ปิดฝา นำขึ้นตั้งไฟนานประมาณ 10 นาที (ในระหว่าง 10 นาที เปิดฝานิดเล็กน้อย กดวุ้นเส้นให้โดนน้ำปรุงด้วยนะคะ เขย่านิดหน่อย) อบต่อจนเส้นเหนียว โรยผักชี พร้อมเสิร์ฟค่ะหมายเหตุ : เมนูนี้เส้นวุ้นเส้นจะเหนียวนุ่ม รสเข้าข้นหวานมันกลมกล่อม หอมเครื่องเทศมาก ๆ โดยปกติส่วนใหญ่จะไม่ใส่นม ซึ่งอ้อทำทุกครั้ง ถ้าไม่มีนมอ้อจะไม่ทำเลย ติดความเข้มข้นไปแล้วค่ะ ลองทำทานดูค่ะ แล้วจะติดใจ ^^
18. ยำหอยแครงยำหอยแครงเป็นอีกเมนูที่เห็นแล้วเรียกน้ำย่อยได้ดีมาก พูดแล้วน้ำลายไหล อิอิ มาดูส่วนผสมง่าย ๆ พื้น ๆ หาได้ทั่วไปใคร ๆ ก็ทำได้จ้า
ส่วนผสม
เนื้อหอยแครงลวก (พอสุก) 100 กรัม ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ มะม่วงเปรี้ยวสับ 1/2 ถ้วย พริกขี้หนูซอย ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบ แรดิชฝานบาง ๆ (อ้อใช้เป็นเครื่องเคียงนะคะ) น้ำพริกเผา น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาว (อาจไม่ต้องใส่ถ้ามะม่วงเปรี้ยวมากอยู่แล้ว)หมายเหตุ : จำนวนและปริมาณตวงตามชอบเลยนะ เปรี้ยว เค็ม และหวานกลมกล่อมตามชอบเลยจ้า
วิธีทำ 1. ลวกเนื้อหอยแครง นำใส่ชามผสม ตามด้วยตะไคร้ซอย มะม่วงสับ พริกขี้หนูซอย และใบสะระแหน่เล็กน้อย เตรียมไว้ 2. ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนผสมให้ละลาย จากนั้นนำไปใส่ในชามหอยแครงลวก คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
19. วุ้นกะทิมะพร้าวน้ำหอม
ส่วนผสม
ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะพร้าวหรือน้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วย (ถ้าเป็นน้ำลอยดอกมะลิ จะหอมมากกว่านี้ หรือกลิ่นมะลิก็ได้) ใบเตยหั่นเป็นท่อน 2-3 ใบ น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วยพูน ๆ (ชิมรสดูตามชอบนะคะ พอดีอ้อไม่ชอบหวานจัดค่ะ) เนื้อมะพร้าวน้ำหอมอ่อน ๆ 1 ลูก หั่นเต๋า จะได้ประมาณ 1/2 ถ้วย (ใส่มากกว่านี้ได้นะ พอดีอ้อจำกัดแค่ลูกเดียวได้แค่นี้) หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนชาวิธีทำ 1. ละลายผงวุ้นกับน้ำ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่ใบเตยหั่นท่อนลงไป ต้มพอเดือด คนผสมจนส่วนผสมวุ้นเริ่มเหนียว 2. ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน พอเดือดค่อย ๆ เทหัวกะทิลงไป คนเบา ๆ อย่าให้กะทิแตกมัน ใส่เกลือป่นเพื่อตัดรสนิดหน่อย พอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ (เอาใบเตยออก) นำไปใส่พิมพ์ (อ้อไม่มีอะไรเลย จึงใส่แก้วและกล่องพาสติกทนความร้อนแทน) จากนั้นนำไปแช่เย็นให้วุ้นเซตตัว นำออกมากินเย็น ๆ มันชื่นใจมาก
20. ข้าวคลุกน้ำพริกห่อไข่เคยเห็นแต่ข้าวผัดแกงเขียวหวานห่อไข่ ลองเปลี่ยนมาเป็นข้าวคลุกน้ำพริกกะปิดูบ้างจะเป็นอย่างไร ทำง่ายแค่ไหนมาดูกันค่ะ
ส่วนผสม
ข้าวสวยหุงสุก 1 ทัพพีน้ำพริกกะปิไข่ 2 ฟองปลาทูทอด 1 ตัวผักเคียงตามชอบวิธีทำ 1. คลุกข้าวกับน้ำพริกกะปิเข้าด้วยกัน เตรียมไว้ 2. ตีไข่ไก่ให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทลงในกระทะเทฟลอน กลิ้งเป็นแผ่น ๆ พอสุก นำข้าวที่คลุกน้ำพริกใส่ตรงกลาง จากนั้นพับไข่เป็นสี่เหลี่ยม นำไปวางใส่จานแบบกลับด้าน ใช้มีดคม ๆ กรีดไข่เป็นสีแฉกให้สวยงาม กินคู่กับน้ำพริก ปลาทูทอด และผักเคียงตามชอบ
21. สปาเกตตีเส้นมาม่าเบคอนกรอบส่วนผสมสปาเกตตีเส้นมาม่าเบคอนกรอบ
น้ำมันพืช เล็กน้อย (ถ้าชอบกลิ่นเนยจะใช้เนยก็ได้)เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้มสุกกระเทียมสับเบคอนหั่นสี่เหลี่ยม 3 ช้อนโต๊ะพริกไทยดำ และใบออริกาโนเกลือป่น (ใครจะใส่ซีอิ๊วขาว หรือน้ำมันหอย ก็ตามความชอบ)เบคอนหั่นท่อนทอดกรอบขนมปังทาเนย หรือสลัดผักตามชอบวิธีทำ 1. ใส่น้ำมันลงกระทะเทฟลอน ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวพร้อมกับเบคอน จนกรอบเหลือง 2. ใส่เส้นมาม่า ใบออริกาโน่ และพริกไทยดำคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือป่น เคล้าผสมต่ออีกนิดหน่อยจนเส้นสุกเหนียว ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟคู่กับเบคอนหั่นทอดกรอบ ขนมปังทาเนย หรือสลัดผักตามชอบค่ะ
22. หอยแมลงภู่อบชีสหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ไม่มี เลยจัดหอยแมลงภู่ชาติชิลีแทน อร่อยเป๊ะไม่ต่าง
ส่วนผสม
หอยแมลงภู่ชิลี 100 กรัมเนยสด (ชนิดจืดหรือเค็ม ตามชอบ) 3 ช้อนโต๊ะ วางไว้ในอุณหภูมิห้องจนนิ่มพาสเลย์สดสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะกระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะเกลือป่น 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้เนยเค็มก็ไม่ต้องใส่เกลือป่น)มอสซาเรลาชีสขูดฝอย 1 ถ้วยวิธีทำ 1. ผสมเนยสด พาสเลย์ กระเทียม และ เกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 2. นำหอยแมลงภู่วางในจานกระเบื้อง โปะทับด้วยส่วนผสมข้อ 1 เกลี่ยให้ทั่ว โรยมอสซาเรลาชีส 3. นำเข้าที่อบอุนหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที หรือจนชีสเป็นสีเหลืองทอง (คอยสังเกตด้วยนะเดี๋ยวเกรียมเกิน) กินคู่กับผัดสลัดหรือน้ำจิ้มซีฟู้ด ตามความชอบเลยค่ะ
23. ต้มยำพริกเผาไข่เจียวโป๊ะแตกมาเปลี่ยนไข่น้ำจืด ๆ ให้แซ่บจี๊ดจ๊าดกันค่ะ
ส่วนผสม
ข่า ตระไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดง (หั่น ฉีก ทุบ ตามถนัดเลยค่ะ)ไข่เจียวหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมปลาหมึกกุ้งน้ำพริกเผา 2 ช้อนโต้ะน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะพริกขี้หนูตำหยาบใบสะระแหน่ผักชีฝรั่งพริกขี้หนู ทุบพอแตกวิธีทำ 1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ผงปรุงรสลงไปนิดหน่อย ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดง ลงต้มจนเดือด 2. คนผสมน้ำพริกเผา น้ำมะนาว น้ำปลา และพริกขี้หนู คนให้น้ำพริกเผาละลาย เตรียมไว้ 3. พอน้ำเดือดใส่ปลาหมึก และกุ้ง พอใกล้สุก ใส่ไข่เจียวที่เตรียมไว้ลงไป ต้มจนปลาหมึกและกุ้งสุก จากนั้นนำน้ำยำที่เตรียมไว้ใส่ลงใหม้อ คนผสมนิดหน่อย ใส่ผักชีฝรั่ง ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟหมายเหตุ : ปรุงรสตามความชอบของแต่ละคนนะคะ
cred.kapook.com
